ความฉลาดของลูกน้อย เริ่มต้นจากพัฒนาการในช่วงแรกของชีวิต ดังนั้นเวลาดังกล่าวจึงเป็นช่วงที่สำคัญยิ่ง มี้ด จอห์นสัน โดยเอนฟา สมาร์ท คลับ จัดสัมมนามหัศจรรย์แห่งพัฒนาการ ครั้งที่ 4 ภายใต้ชื่องาน “Enfa A+ Miracle Trip” สำหรับครอบครัวอัจฉริยะ A+ จำนวน 30 ครอบครัว มุ่งหน้าสู่หัวหิน เพื่อเข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “เอนฟา รหัสอัจฉริยะ เพื่อพัฒนาลูกน้อยสู่ความเป็นอัจฉริยะ”

พญ.ชนิกา ตู้จินดา ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และอาจารย์ธิดา พิทักษ์สินสุข อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสาธิตพัฒนา และกรรมการสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย บอกว่า ในช่วง 3 ขวบปีแรก สมองจะมีพัฒนาการสูงสุด ถือเป็นโอกาสเดียวของการเริ่มต้นพัฒนาสมอง ร่างกาย อารมณ์และพฤติกรรมของลูกน้อย

“ลูกน้อยทุกคนสามารถเป็นอัจฉริยะได้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาเพื่อการพัฒนาสมอง (Smart Nutrition) โดยเฉพาะดีเอชเอ สองคือการนอนหลับเพียงพอ การนอนที่ดีคือการนอนหลับให้สนิท เพราะ Growth hormone จะหลั่งออกมาจะช่วยเพิ่มเซลล์สมอง ดังนั้นอย่าให้ลูกนอนดึก สามคือต้องให้ลูกดื่มน้ำเยอะๆ เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้สมองเจริญเติบโต สุดท้าย การออกกำลังกาย คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามให้ลูกได้เคลื่อนไหวร่างกาย เพราะการพัฒนากล้ามเนื้อมัดต่างๆ จะควบคู่ไปกับการพัฒนาทางสมอง และสิ่งสำคัญที่สุดคือตัวคุณพ่อคุณแม่ เพราะคุณพ่อคุณแม่เป็นเสมือนกระจกเงาที่ลูกๆ มักจะเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องทำตัวเป็นกระจกเงาที่ดี เลี้ยงลูกด้วยความอ่อนโยนเขาก็จะมีจิตใจที่อ่อนโยนด้วยเช่นกัน”

นอกจากเรื่องของโภชนาการที่ดี พญ.ชนิกาเพิ่มเติมว่าเสียงดนตรี สื่อดีๆ เพิ่มไอคิว (Smart Symphonies) ก็ช่วยได้ เพราะเพลงประเภทซิมโฟนี่ และการเล่นจะทำให้เด็กเกิดจินตนาการ เด็กๆ ที่ได้เล่นอย่างมีความสุขจะทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ และรหัสอัจฉริยะตัวสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันคือ Smart Language พูดคุย สื่อภาษา พัฒนาการเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่ควรพูดกับลูกบ่อยๆ เพราะจะทำให้ลูกมีไอคิวที่ดี โดยคำพูดของลูกก็จะแสดงถึงศักยภาพสมองของลูกอย่างชัดเจน

ช่วงเวลาสำคัญแห่งชีวิตที่จะทำให้ลูกน้อยพัฒนาสู่ความเป็นอัจฉริยะในอนาคตแบบนี้ พ่อแม่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ

ขอขอบคุณข้อมูล