May 9, 2025, 6:41 pm
|
เปิดร้านเมื่อ | 02/03/2010 |
|
ปรับปรุงร้านล่าสุด | 07/11/2023 |
|
จำนวนสินค้า | 14 |
| ผู้เข้าชมทั้งหมด |
 |
|
 |
|
Your IP : 3.17.185.36
**การที่เข้าระบบไม่ได้**
ต้องใช้ Mozilla Firefox จะล็อคอินได้ ถ้าต้องการใช้ Internet Explorer
แก้ได้โดย
1.คลิ๊กที่ Tools เลือก Internet Options
2. เลือก tab Privacy -> Advanced
3. ติ๊กในช่อง Override automatic cookie handling ปิดแล้วเปิด IE ใหม่ แล้วใช้ได้
|
 |
|
|
 |
|
 |
20/04/2010 10:42:59
สาเหตุที่ลูกกินยาก และ ไม่อยากกิน
บทความดีๆ ป้าเบญไปอ่านเจอเลยคัดลอกมาฝากจ๊ะ ป้าเบญ..เชียงใหม่เจ้า
เหตุที่ลูกกินยาก-ไม่อยากกิน คำกล่าวที่ว่า "เรื่องกินเรื่องใหญ่" นี่เห็นทีจะไม่มีทางปฎิเสธได้เลย เพราะไม่ว่าอะไร ถ้าลอง ไม่ยอมกินแล้วล่ะก็..รับรองได้ว่า เรื่องใหญ่ตามมาแน่
สำหรับเด็กเล็กๆ นับตั้งแต่เป็นทารกมาจนอายุประมาณ 2 ขวบ เรื่องของการกินนั้น ถือเป็นเรื่อง ใหญ่ที่สำคัญมาก เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง ฉะนั้นในช่วง 2 ขวบปีแรกนั้นหาก คุณพ่อคุณแม่เริ่มเห็นพฤติกรรมอันบ่งบอกว่า ลูกกำลังกลายเป็นเด็กกินยาก หรือไม่ยอมกินแล้วล่ะก็ ควรรีบจัดการแก้ไขโดยด่วน
สัญญาณเตือนภัย..ลูกไม่ยอมกิน คุณพ่อคุณแม่จะต้องหมั่นสังเกตลูกน้อยว่า เริ่มมีพฤติกรรมการกินต่อไปนี้หรือเปล่า
หงุดหงิด ร้องไห้ เมื่อถึงเวลากิน
อมข้าว
ป้อนอาหารแล้วคายทิ้ง
ใช้เวลาในการทานอาหารนานผิดปกติ
เล่นอาหารจนหกเลอะเทอะ แล้วก็ไม่ยอมกิน
เหล่านี้คือสัญญาณอันตรายที่เตือนให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกกำลังมีปัญหาเรื่องการกิน เมื่อลูกไม่ยอมกิน ย่อมทำให้ คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลใจไปมากมาย เอ..ลูกเราป่วยเป็นอะไรหรือเปล่า อาหารไม่ถูกใจลูกหรือเปล่า พัฒนา การเขาผิดปกติหรือเปล่า ร้อยแปดพันประการสุดแต่จะนึกคิดหยิบมากังวล
ปัญหาการกินยาก หรือไม่อยาก ไม่ยอมกินของเด็กนั้นมีปัจจัยเกี่ยวข้องที่สำคัญอยู่ 2 สิ่งคือ พัฒนาการของเด็กกับ อารมณ์โดยในเรื่องของพัฒนาการก็จะเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่เขาสัมผัส ส่วนเรื่องอารมณ์ก็คือการที่เด็กนั้น แสดงออกถึงพฤติกรรมของเขาอันเกิดจากการเรียนรู้และพัฒนาการ
เมื่อลูกไม่ยอมกิน ควรจัดการอย่างไร ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจถึงพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเสียก่อน เพื่อจะได้เข้าใจในพัฒนาการของเด็ก รู้ว่าช่วงวัยนี้เขามีพัฒนาการอย่างไร เพื่อนำมาใช้ในการแก้ปัญหา เช่น เมื่อเด็กเข้าสู่ช่วงอายุ 8-9 เดือน เด็กจะเริ่ม ใช้มือหยิบโน่นจับนี่ และมักต้องการทานอาหารเอง คุณพ่อคุณแม่ก็จะกระตุ้นและส่งเสริมให้เขาทานอาหารเอง อาจให้เขาใช้มือจับช้อนสลับกับการช่วยป้อน ฝึกให้ลูกกินอาหารเป็นเวลา วันละ 3 มื้อ ของว่าง 2 มื้อ ซึ่งถือว่าเป็น การเพียงพอแล้วสำหรับวัยนี้ เพื่อสอนให้เด็กรู้จัก และมีประสบการณ์ต่อความหิว จำกัดเวลาในการทานอาหารนาน ที่สุดครึ่งชั่วโมง เมื่อเด็กเริ่มปฎิเสธ เบื่อหน่าย เล่นหรือแสดงความไม่พอใจ ให้เลิกทานอาหารทันที อย่างนี้เป็นต้น
หรือถ้าเป็นเด็กอายุระหว่าง 1-2 ปี ซึ่งพัฒนาการของเด็กในวัยนี้จะต้องการความเป็นอิสระ และเป็นตัวของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรจะบังคับเขามาก เพราะหากถูกควบคุม บังคับในเรื่องการกิน เด็กอาจต่อต้านด้วยการปฎิเสธอาหาร
ฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่จะแก้ปัญหาการไม่ยอมหรือไม่อยากกินของเด็กก็คือ ความเข้าใจในพัฒนาการของเขา ที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องเรียนรู้ และนำมาประยุกต์ใช้กับเด็กๆที่เริ่มมีปัญหา และอย่าลืมว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ ปฎิบัติต่อลูกนั้น จะสะท้อนออกมาเป็นอารมณ์และพฤติกรรมของเขา
อีกนิ๊ดนะ เด็กอายุ 1-1.5 ขวบ หากทานข้าวได้วันละ 1-1.5 ถ้วยตวง ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ยกเว้นเด็กที่เดินทั้งวัน สามารถให้ทานได้ถึง 2 ถ้วยตวง หากเด็กน้ำหนักตัวน้อย อาจทำอาหารว่าง เช่น คัสตาร์ดให้ทานได้ (ไข่แดง 2 ฟอง นมลูก 1/2 ถต วิปครีม 1/4 ถต น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ละลายให้เข้ากัน กรองผ่านกระชอน เทใส่ พิมพ์2ใบ หรือภาชนะสำหรับนึ่งนึ่งไฟอ่อนเพื่อไม่ให้หน้าขนมแตก จับเวลาหลังน้ำเดือด 10 นาที หากเย็นแล้วเอา เข้าถุงพลาสติกทั้งพิมพ์ ใส่ตู้เย็น เก็บไว้ทานต่อวันรุ่งขึ้นได้ สูตรนี้เด็กจะได้สารอาหารจำเป็นจากไข่แดงและนมซึ่ง ให้ทั้งโปรตีนและแคลเซียม มีน้ำตาลให้พลังงาน มีวิปครีมให้ไขมัน ทานเสร็จอย่าลืมใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดฟันให้น้องด้วยนะค่ะ
ป้าเบญ..เชียงใหม่เจ้า
|