กล้องอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลหรือกล้องไอพีเป็นชนิดของกล้องวิดีโอดิจิตอลที่ใช้กันทั่วไปสำหรับการเฝ้าระวังและที่แตกต่างจากโทรทัศน์วงจรปิดแบบอนาล็อก(CCTV) กล้องสามารถส่งและรับข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตแม้ว่าลักษณะการทำงานส่วนใหญ่จะคล้ายเว็บแคมมากที่สุด แต่รูปแบบการใช้งานของกล้องIP หรือ "netcam" มักจะใช้เฉพาะกับผู้ใช้สำหรับการเฝ้าระวัง
กล้อง IP มีอยู่ 2 แบบคือ:
1) กล้อง IP ที่ต้องอาศัยเครือข่ายกลาง เพื่อจัดการบันทึกวิดีโอและสัญญาณเตือนภัย (NVR)
2) กล้อง IP อิสระซึ่งไม่จำเป็นต้องมีเครือข่ายกลางการบันทึกวีดีโอ เช่นกล้องที่มีฟังก์ชันการทำงานบันทึกเสียงในตัวและจึงสามารถบันทึกโดยตรงไปยังการจัดเก็บสื่อดิจิตอลเช่นแฟลชไดรฟ์ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์หรือเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูลโดยในที่นี้เราจะใช้โปรแกรมจัดการช่วยในการดูกล้องหรือจัดการการบันทึก
ข้อดี
•Two Way Audio : รองรับเสียงสองทางผ่านทางสายเคเบิลเครือข่ายเดียวช่วยให้ผู้ใช้ในการสื่อสารกับสิ่งที่พวกเขาเห็นโดยตัวกล้องจะมีลำโพงและไมค์ในตัวเพื่อใช้ในการติดต่อระหว่างจุด2จุด
•Wireless: เคลื่อนย้ายได้ง่ายในที่ใดก็ได้ในเครือข่ายIP รวมทั้งแบบไร้สาย•กล้อง IP มีการวิเคราะห์วิดีโอที่อยู่ในกล้องซึ่งช่วยในการวิเคราะห์แก้ไขปัญหา
•PTZ : สามารถสั่งงานได้แบบ PTZ ผ่านทางสายเคเบิลเครือข่ายเดียว
PTZ: Pan-Tilt-Zoom คือกล้องที่สามารถกวาดกล้องไปตามแนวนอน (หมุน) ก้มเงย ในแนวตั้ง ซูมเพื่อขยายภาพในระยะไกลให้ดูใกล้ขึ้น ส่วนใหญ่แล้วกล้องพวกนี้จะควบคุมการทำงานแบบ PTZ ในระยะไกลผ่านเครือข่ายหรือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งบางรุ่นสามารถ pan ได้มากถึง 355 องศา
•การเข้ารหัสและการตรวจสอบ: กล้อง IP ส่งข้อมูลที่มีความปลอดภัยโดยการส่งผ่านวิธีการเข้ารหัสและการตรวจสอบเช่นในระบบเครือข่ายที่มีการเข้ารหัสแบบWEP, WPA, WPA2, TKIP, AES
•การเข้าถึงระยะไกล: ภาพวิดีโอสดจากกล้องที่เลือกสามารถดูได้จากคอมพิวเตอร์,สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้
•Wire/Wireless: กล้อง IP จะสามารถทำงานบนเครือข่ายไร้สาย wifi โดยจะมีเสาอากาศ(Antenna)สำหรับการรับส่งหรือจะใช้การเชื่อมต่อจากสายLAN
• PoE (Power over Ethernet) : กล้อง IP บางรุ่นสามารถใช้ไฟเลี้ยงจากสาย LAN โดยทำงานร่วมกับ PoE โปรโตคอลโดยเราต้องมีแหล่งจ่ายไฟซึ่งอาจจะเป็น PoE switch ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับจำนวนPort PoE หรือ NVR บางรุ่นจะมีให้แต่อาจไม่มาก Port เท่าไหร่ซึ่งถ้าต้องการต่อจำนวนมากก็ต้องอาศัย PoE switch มาต่อเพิ่ม
• P2P หรือ Peer 2 Peer โดยเราสามารถใช้โทรศัพท์มือถือ Smart phoneหรือ Iphone เพื่อต่อเข้ามาเพื่อดูและควบคุมกล้องในระยะไกลผ่านอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องเซ็ตค่า IP ใดๆ เพียงแต่ต้องติดตั้ง App และเข้าระหัสและ ID ของกล้องซึ่งบางรุ่นมี QR code มาให้ด้วยเพื่อความสะดวกในการ scan ID (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความเกี่ยวกับการติดตั้งและใช้งาน P2P) • IR-CUT ระบบ Self-Check, มีฟิลเตอร์สวิทช์อัตโนมัติ2ชั้นไม่ทำให้สีเพี้ยนทั้งในและนอกบ้าน เพื่อเพิ่มคุณภาพของภาพโดยจะแก้ความเพี้ยนของสีและปรับความสว่างให้พอดีทั้งกลางวันหรือกลางคืนโดยคลื่นของแสงในธรรมชาติมีหลายย่านและตาของมนุษย์จะสามารถเห็นเฉพาะความยาวคลื่นระหว่าง 320nm-760nm, ถ้าความยาวของคลื่นมากกว่า 320nm-760nm มนุษย์จะไม่สามารถมองเห็นได้เช่น: อินฟราเรด (IR) รังสี (UV) รังสีอัลตราไวโอเลต เมื่อใช้กล้องในตอนกลางวัน เราต้องการให้ได้สีของภาพที่ถูกต้อง กล้องที่มี IR-CUT จะเปิดใช้ฟิลเตอร์ IR เพื่อกรองแสงอินฟราเรด (จากภายนอก) ก่อนเข้าไปที่ ตากล้องรับแสง(CCD) แต่ถ้าแสงอินฟราเรดเข้าไปถึง CCD มันก็จะก่อให้เกิดความเพี้ยนของสีจริงของวัตถุที่กล้องจับอยู่ เหมือนกับการเปลี่ยนพืชสีเขียวให้เป็นสีเทา .. ฯลฯ
หรือเมื่อกล้องทำงานในเวลากลางคืน(หรือมีแสงไม่เพียงพอ) ตัวIRฟิลเตอร์จะเปิดยอมให้แสงอินฟราเรด (หรือทุกย่านแสง)ผ่านไปถึงCCD เพื่อให้สามารถ CCD ดูดแสงให้เพียงพอซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสว่างของภาพในเวลากลางคืน
• Alarm : การแจ้งเตือนโดยกล้องจะมีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของวัตถุซึ่งสามารถปรับความไวในการตรวจจับได้เพื่อลดอาการที่เรียกว่า fault Alarm (แจ้งผิด) โดยการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้ได้หลายช่องทางเช่นลงรูปไปทาง E-mail หรือส่งรูปผ่านการถ่ายโอนข้อมูลแบบ FTP (File Transfer Protocal) และกล้องบางรุ่นมี I/O Port สำหรับ Alarm มาให้ด้วยซึ่งท่านสามารถต่อ Outputไปยัง Alarm Whistle (เสียงเตือน)หรือต่อ Input รับการ trigger จากแหล่งอื่น
• Night Vision : กล้อง IP Camera ส่วนใหญ่จะมี IR LED เพื่อให้แสงอินฟราเรดซึ่งจะช่วยให้กล้องจับภาพในเวลากลางคืนได้ดีขึ้นซึ่งระยะ IR ที่แตกต่างขึ้นอยู่กับจำนวนและความเข้มของ IR LED
• มาตรฐานรับรอง
ฟังก์ชั่นการทำงานที่สามารถนำมาใช้เพื่อการเฝ้าระวังและเตือนภัยได้หลากหลายรูปแบบซึ่งปัจจุบันราคาไม่แพงและคุณภาพก้าวไกลไปมากซึ่งมาตรฐานความปลอดภัย CE ที่ยอมรับกันในยุโรปเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพในเรื่องขอความปลอดภัยและFCC มาตรฐานการควบคุมการแพร่กระจ่ายคลืนวิทยุรบกวนไม่ให้เกินขอบเขตซึงจะไม่ไปรบกวนการทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออิเล็คทรอนิกส์ได้อย่างดีรวมกับการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่รับรองโดย ROHS
