ตอบโจทย์หลักๆ ของคุณ ดังนี้ครับ

1. รู้ยอดขาย   ในแต่ละวันร้านเราขายของได้ "ยอดเงินสด ยอดเงินเชื่อ" เท่าไร  หรือ อยากดูเป็นรอบเดือน รอบปี ก็ได้ครับ  มีสินค้าอะไรขายดีบ้าง ในแต่ละเดือน 
รวมถึงกำไรขั้นต้นจากการขาย   

2. รู้จำนวนสินค้าคงเหลือ ได้ทันที เพราะโปรแกรมตัดสต็อกทันทีที่ขาย และ รับเข้าทันทีที่บันทึกซื้อ  ทำให้รู้ต่อไปได้ว่า  "สินค้าอะไรถึงจุดที่ต้องสั่งซื้อ" แล้วนะ
 .ตรงจุดนี้ทำให้คุณสุ่มนับสต็อกสินค้าได้ทุกวัน หรือ ทุกเวลา และทำให้สั่งซื้อสินค้าเข้ามาขายของก่อนจะหมด "ไม่เสียโอกาสขายของ" (ลูกค้าก็ไม่พลาดไปร้านอื่น)

3. ลูกหนี้  ร้านคุณปล่อยเครดิตไปกี่บาทแล้ว เกินความรู้สึกหรือยัง  บางร้านให้ระเบียบว่า ไม่เกิน 1 ล้านบาท
พอใช้โปรแกรมแล้วบันทึกยอดหนี้ที่ยังไม่จ่าย ยอดหนี้เกิน 3 ล้านแล้วครับ 
ทำให้คุณขยับตัวติดตามหนี้ในลูกหนี้ได้ทันการณ์

    โปรแกรมร้านวัสดุก่อสร้างนี้ ช่วยให้คุณจำกัด "วงเงินเครดิต" ครับ เช่น ช่างดำ ได้วงเงิน 100,000 บาท ตอนนี้มียอดหนี้อยู่ 95,000 บาท 
หากวันนี้มาซื้อปูนเสืออีกสัก 100 ถุง สมมุติว่า ถุงละ 100 บาท เป็นเงิน10,000 บาท เวลาพนักงานบันทึกขาย โปรแกรมดีดหน้าต่าง "วงเงินไม่พอ" ทันทีครับ

ช่างดำต้อง 1.จ่ายเงินสด  หรือ 2.โทร.ติดต่อคุณหรือผู้จัดการร้านเพื่อร้องขอเพิ่มวงเงินเครดิตครับ  
   ทำให้คุณควบคุมยอดเงินเชื่อโดยรวมได้  ความเสี่ยงอยู่ในระดับที่คุณรับได้

4. เจ้าหนี้   รู้ยอดหนี้ที่ซื้อเงินเชื่อมา เพื่อบริหารการจ่ายเงิน และรู้ยอดจ่ายออกไปในแต่ละรอบเดือน

5. ลูกค้า    ใครมาซื้อมากซื้อน้อยในรอบเดือน หรือ ดูเป็นรอบปี เพื่อสมนาคุณคืนลูกค้าบ้าง

6. ควบคุมเงินสดเข้าออกในแต่ละวัน ด้วยโปรแกรมรับจ่ายเงิน
เช่น วันนี้สำรองเงินทอนไว้ 10,000 บาท  ขายเป็นเงินสดได้ 50,000 บาท รับชำระหนี้ได้ 40,000 บาท   มีรายจ่ายค่าเครื่องดื่มพนักงาน 500 บาท ค่าน้ำประปา 500 บาท 
ดังนั้นเงินสดที่เหลือคือ เงินทอน + ขายเงินสด  + รับชำระหนี้ - ค่าเครื่องดื่ม - ค่าน้ำ  = 10,000 + 50,000 + 40,000 - 500 - 500 =99,000 บาท

7. คุณมีเวลาเหลือจากงานประจำของร้านคุณแล้วครับ