ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียม ผสมแมกนีเซียม วิตามิน ซี, สังกะสี, แมกกานีส, ทองแดง, วิตามิน อี และวิตามิน ดี3 ชนิดเม็ด ตรากิฟฟารีน
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 เม็ดของ แคล ดี แมก 600 มีดังนี้ แคลเซียม 600 มก. แมกนีเซียม 53 มก. วิตามิน ดี 3 200 หน่วยสากล วิตามิน ซี 30 มก. วิตามิน อี 3 หน่วยสากล สังกะสี 7.5 มก. ทองแดง 1 มก. แมงกานีส 2 มก.
วิธีรับประทานครั้งละ 1 เม็ด พร้อมอาหารเช้า-เย็น
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
ฆอ. 1983/2553
ขนาด 60 เม็ด
--------------------------------------------------------------------------------
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แคลเซียม ผสม แมกนีเซียม, วิตามิน ซี, สังกะสี, แมงกานีส, ทองแดง, วิตามิน อี และ วิตามิน ดี3 ชนิดเม็ด
ส่วนประกอบสำคัญ ใน 1 เม็ด ของ แคล-ดี-แมก 600 มีคุณค่าของแร่ธาตุ ดังนี้
· แคลเซียม 600 มก./เม็ด · แมกนีเซียม 53 มก./เม็ด · วิตามิน ดี 3 200 หน่วยสากล/เม็ด · วิตามิน ซี 30 มก./เม็ด · วิตามิน อี 3 หน่วยสากล/เม็ด · สังกะสี 7.5 มก./เม็ด · ทองแดง 1 มก./เม็ด · แมงกานีส 2 มก./เม็ด
หน้าที่สำคัญของแคลเซียม
1. เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันความผิดปกติของกระดูก เช่น กระดูกหักง่าย หลังโก่งงอ กระดูกเรียงผิดรูป หรือ ฟันโยกหลุดง่าย 2. ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน 3. ป้องกันการปวดเกร็งในช่องท้อง ในผู้หญิงระหว่างมีประจำเดือน 4. ลดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อและอาการชาตามปลายมือ ปลายเท้า 5. ช่วยให้การเจริญเติบโตในด้านความยาวและความแข็งแรง ของเด็กในวัยเจริญเติบโต
วิตามินและแร่ธาตุมีคุณประโยชน์ ดังนี้
1. วิตามิน ดี3 เสริมประสิทธิภาพในการดูดซึมแคลเซี่ยมให้ดีขึ้น 2. แมกนีเซียม เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการเผาผลาญอาหาร ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน ป้องกันการเป็นตะคริว 3. วิตามินซี เสริมสร้างผนังหลอดเลือด ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุ เสริมสร้างเซลล์ให้แข็งแรง 4. สังกะสี เป็นส่วนจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 5. ทองแดง ช่วยในการหายใจของเซลล์ เป็นส่วนสำคัญของการสร้างเนื้อเยื่อ และมีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูก 6. วิตามิน อี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เซลล์เสื่อมสภาพ ช่วยลดการเกิดโรคหลายชนิดที่เกิดจากเซลล์ถูกทำลาย
เราต้องการแคลเซี่ยมเท่าใด คำตอบคือ ตามมาตรฐานคนไทยกระทรวงสาธารณสุขได้วางข้อกำหนดไว้ ดังนี้
วัย |
ปริมาณแคลเซียมต่อวัน (มก.) |
เด็กเล็ก 1 -6 ปี |
800 |
เด็กวัยรุ่น |
1200 |
สตรีหมดประจำเดือน |
1200 |
สตรีมีครรภ์ให้นมบุตร |
1200 |
ผู้ใหญ่ |
800 |
คนไทยได้แคลเซี่ยมจากอาหารที่รับประทานอยู่เพียงพอหรือยัง ?
มีการศึกษาวิจัยดังนี้ กองวิเคราะห์อาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ศึกษาวิเคราะห์แร่ธาตุจากอาหารทุกภาคในประเทศไทย โดยเก็บตัวอย่างอาหารที่ทานเป็นประจำของภาคนั้น ๆ ผลวิเคราะห์เป็นแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ได้รับในแต่ละวัน ผลการวิเคราะห์แคลเซี่ยมมีดังนี้ครับ
แคลเซี่ยมในอาหารที่คนไทยในแต่ละภาคได้รับ (มก. / วัน)
ภาคเหนือ 251.8 ภาคอีสาน 194.8 ภาคกลาง 156 ภาคใต้ 173 เฉลี่ย 195.6
จะเห็นว่าเป็นค่าที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับความต้องการของ คนไทย คือ 800 มก./วัน ยังมีการวิจัยในคนกรุงเทพ ฯ โดยสุ่มในประชากร 396 คน พบว่า แม้ในคนกรุงเทพ ณ ซึ่งนับว่ามีโภชนาการที่ดีพอสมควร ก็ยังได้รับแคลเซี่ยมเฉลี่ยเพียง 361 มก./วัน โดยมีถึง
67 % ได้รับแคลเซี่ยมน้อยกว่า 400 มก./วัน 31% ได้แคลเซี่ยม 400-800 มก./วัน มีเพียง 2 % ที่ได้แคลเซียมเกิน 800 มก./วัน
โรงงานผู้ผลิต: Giffarine |