BOOKSHOPMAN

วันพฤหัสบดี ที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 22:06:17

สถิติ


เปิดร้านเมื่อ 09/12/2011

ปรับปรุงร้านล่าสุด 12/07/2014

จำนวนสินค้า 416

ผู้เข้าชมทั้งหมด



สินค้า


สินค้าทุกหมวดหมู่



ข่าวสาร

13/12/2011 19:05:40
นิยาย หนังสือมือสอง ลด 50%

07/01/2012 18:04:54
การแจ้งการชำระเงิน

30/05/2014 12:32:23
แนะนำสินค้าใหม่ หลอดLED



ข้อมูล

ผู้ให้บริการรับชำระเงิน
สมัครสมาชิกเพย์สบาย ฟรี

ใช้บริการของ paypal ก็ได้เหมือนกัน ฟรี



Code 77548
ละครไทย บ่วง 5 แผ่นจบ
คะแนนและความคิดเห็น



ละครไทย บ่วง 5 แผ่นจบ

ศามน หนุ่มวัยทำงาน ตำแหน่งหน้าที่การงานดี เป็นถึงหัวหน้าฝ่ายบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาทั้ง ๆ ที่ยังอายุไม่มาก เขาเกิดที่เมืองไทยแต่ไปเติบโตที่อเมริกา เพราะต้องติดตามพ่อที่ทำงานเป็นทูตอยู่ที่นั่น ศามนเกิดมาพร้อมด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติอย่างที่สาว ๆ หลายคนพึงพอใจ แต่เขาเลือกแต่งงานกับ รัมภา สาวสวยที่เคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน แต่มีคนใจบุญรับเธอมาอุปการะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี รัมภาเป็นคนเพียบพร้อมทั้งกิริยามารยาทคู่ควรกับศามน สองคนพบรักกันที่อเมริกา และตัดสินใจแต่งงานกันจนมีลูกฝาแฝดชาย-หญิงที่น่ารักวัย 4 ขวบชื่อ ศรุท (รัตตี้) และ ศรัย (ไลล่า) ครอบครัวนี้ถือว่าเป็นครอบครัวรุ่นใหม่ที่อบอุ่นและคอยเติมเต็มให้กันอย่างมีความสุข

         วันหนึ่งศามนได้รับการติดต่อจากญาติให้เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยด่วน เพื่อมาร่วมงานศพคุณยายทวด และมารับมรดกตกทอดของตระกูลที่บ้านสวนเก่าหลังใหญ่แถบชานเมือง ซึ่งมีเนื้อที่เกือบห้าไร่ เขาตัดสินใจย้ายครอบครัวกลับมาตั้งรกรากที่นี่ และทำเรื่องย้ายงานจากบริษัทแม่ที่อเมริกามาประจำสาขาในไทย เพื่อมาอยู่ที่บ้านสวนหลังนี้กับครอบครัว โดยให้รัมภาเป็นแม่บ้านอยู่บ้านคอยดูแลลูก ๆ

         ที่บ้านสวนแห่งนี้คนภายนอกมองว่าบรรยากาศน่ากลัวเพราะต้นไม้รกครึ้ม ไม่มีใครพักอาศัยอยู่เลย นอกจาก ตาหล้า              ,              ยายคำ และ บุญสืบ ลูกชายจอมทะเล้น ข้าเก่าของคุณทวดที่คอยดูแลทำความสะอาดบ้าน ศามนไม่รู้สึกกลัวที่นี่เหมือนคนอื่น เพราะเขาเคยวิ่งเล่นมาตั้งแต่เล็ก ๆ แต่สำหรับรัมภาความรู้สึกแวบแรกตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาที่บ้านสวนแห่งนี้ เธอรู้สึกว่าที่นี่ดูวังเวงและชวนขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ที่เพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีกคือ หลังจากที่คุณทวดเสียชีวิตลง ศพของท่านยังคงบรรจุใส่โลงตั้งเอาไว้บนเรือนหลังใหญ่เพื่อรอการเผา รัมภามองรูปหน้าศพรู้สึกว่าคุณทวดมีแววตาแข็งกร้าว ดุดัน แต่เมื่อมองนาน ๆ เหมือนอุปทานว่าเห็นรอยยิ้มผุดขึ้นจากมุมปากของท่าน

         เมื่อมาถึงที่นี่ในคืนแรก มีเหตุการณ์ลึกลับที่ทำให้รัมภาต้องอกสั่นขวัญหายเกิดขึ้น ลูกแฝดของเธอหายตัวไปจากห้องนอนที่เรือนใหญ่อย่างไร้เงื่อนงำ คนทั้งบ้านช่วยกันตามหาตัวเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ยายคำคนดูแลบ้านบอกศามนและรัมภาว่า เด็ก ๆ คงถูกผีลักซ่อน ยายคำเลยให้ทั้งคู่ไปทำพิธีจุดธูปกำใหญ่หน้าโลงศพคุณทวด เพื่อให้ท่านช่วยดลใจให้เจอเด็ก ๆ ยายคำเชื่อว่าเด็กแฝดทั้งสองเป็นหลานแท้ ๆ ของท่าน ท่านคงไม่น่ามาหยอกล้อแบบนี้ เมื่อปักธูปเสร็จ ทุกคนจึงได้ยินเสียงเด็ก ๆ และเจอตัวเด็ก ๆ เมื่อตอนใกล้เช้าในที่สุด

         ไม่เพียงเท่านั้น รัมภามักหูแว่วได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กอันเยือกเย็น ในขณะที่ศามนกลับหูแว่วได้ยินเสียงท่องมนต์ดำ ขลังและศักดิ์สิทธิ์ของหญิงคนหนึ่งที่คุ้นหู ทั้งสองต่างเก็บนิมิตเสียงอันแตกต่างเหล่านี้ไว้ไม่บอกกันและกัน

         รัตตี้และไลล่าเล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่า ทั้งสองคนออกไปหาขุมทรัพย์มา ซึ่งจริง ๆ แล้วพวกเขาถูกใครคนหนึ่งปลุกให้ตื่นขึ้นกลางดึก และสะกดให้เดินออกจากห้องนอนไปที่เรือนหลังเล็กท้ายสวน ระหว่างทางได้พบกับลูกหมาสีดำตัวหนึ่ง เด็ก ๆ เหมือนถูกสะกดให้เดินตามลูกหมาตัวนั้นไป มันนำทางให้ทั้งคู่เดินออกมาที่ศาลาท่าน้ำ ลูกหมาตัวนั้นค่อย ๆ ตะกายลงไปในน้ำและจมหายไปต่อหน้าต่อตาทั้งสองคน ในตอนนั้นเด็กแฝดได้ยินเสียงหญิงชราคนหนึ่งกระซิบข้างหูให้ลงไปในน้ำเพื่อช่วยลูกหมา แต่ที่ริมน้ำฝั่งตรงข้ามพวกเขากลับเห็นหญิงชราหน้าตาใจดีอีกคนโบกมือห้ามไม่ให้ลงไป เด็ก ๆ เล่าว่าในตอนนั้น พวกเขาได้ยินเสียงที่ผู้ใหญ่ตะโกนตามหา จึงไม่คิดลงน้ำตามลูกหมาตัวนั้นไป แต่ไม่รู้ทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถขานตอบได้

         ตาหล้าและยายคำบอกศามนและรัมภาว่า คุณทวดคงคิดพาโหลนออกไปเที่ยวจึงดลใจให้ผู้ใหญ่มองไม่เห็นตัวเด็ก ๆ หลังจากที่คุณทวดเสียชีวิตลง ตาหล้าและยายคำเคยเห็นร่างคุณทวดมานั่งเล่นที่ชานบ้านบ่อย ๆ แต่ท่านมาดีเหมือนมาช่วยปกปักรักษาที่นี่ เมื่อทุกคนคุยเรื่องคุณทวดทีไรมักได้กลิ่นธูปหอมลอยมาเสมอ หลังจากที่ศามนและรัมภาพบลูกแฝดแล้ว รัมภาเหมือนหูแว่วได้ยินเสียงหญิงชราหัวเราะเย้ยหยันเรื่องที่ลูก ๆ ของเธอหายตัวไปจนเกือบจะจมน้ำตาย เธอรู้สึกกลัวมากแต่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง

         ศามนไปทำงานรับตำแหน่งผู้จัดการในบริษัทคอมพิวเตอร์ข้ามชาติ โดยมี อนุกูล เป็นรองผู้จัดการ มี วรรณศิกา เป็นเลขา และมี พัชนี พนักงานใหม่เข้ามาเป็นผู้ช่วยวรรณศิกา อนุกูลเป็นเพลย์บอยหนุ่มรูปงาม ท่าทางกรุ้มกริ่มกับสาว ๆ จนถูกพัชนีเตือนให้รู้โทษของการผิดศีลห้า นั่นทำให้อนุกูลรู้สึกขำขันกับพนักงานใหม่ สาวสวยแต่ชอบทำตัวเป็นแม่ชีอย่างพัชนี จนต้องคอยยั่วโมโหและแกล้งพัชนีอยู่บ่อย ๆ

         วันนั้น อนุกูล วรรณศิกา และพัชนี ติดตามศามนเข้ามาเยี่ยมรัมภาที่บ้านเพื่อช่วยเหลือในฐานะเพื่อนร่วมงานที่ดี พัชนีมีกล้องติดมือมาด้วยจึงถ่ายภาพบ้านของศามนตามมุมต่าง ๆ ไว้ เมื่อพัชนีกลับบ้านเอาให้ ลุงช่วง ดู ลุงช่วงนั่งทางในพบว่าบ้านหลังใหญ่นั้นมีบ้านหลังเล็กแทรกตัวอยู่ ห่างกันแค่คลองเล็ก ๆ คั่น ลุงช่วงรีบบอกให้พัชนีติดต่อศามน อย่าให้ใครไปเปิดบ้านหลังเล็ก มิฉะนั้นมนต์ดำของวิญญาณร้ายจะออกมา

         แต่ไม่ทันกาลเสียแล้ว ศามนออกไปสำรวจท้ายสวนตามทางที่เด็ก ๆ บอก จนไปเจอเรือนหลังเล็กสกปรกรกร้างริมน้ำและถูกล็อกกุญแจแน่นหนา ศามนงัดกุญแจที่มีผ้ายันต์ปิดอยู่ออก ศามนเข้าไปข้างใน เสียงมนต์ดำ เสียงโซ่ที่ถูกลากไปตามพื้น และเสียงกรีดร้องอย่างทรมานดังไปทั่วจนศามนเป็นลมล้มลง ก่อนจะตื่นขึ้นมากลายเป็นศามนคนใหม่ที่เฉยชาและขี้หงุดหงิด

         ศามนสงสัยว่าทำไมห้องที่เรือนหลังเล็กต้องมีลูกกรงแน่นหนา จนมารู้ทีหลังว่าที่นี่เป็นเรือนที่คุณทวดหวงมากไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่ง ศามนชอบบรรยากาศที่เรือนหลังเล็กมาก ขณะที่รัมภารู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ที่นี่ ศามนไม่คิดนอนที่เรือนใหญ่ที่ตั้งศพคุณทวดอยู่ตั้งแต่แรก เขาจึงสั่งตาหล้าให้ซ่อมแซมและปรับปรุงเรือนหลังนี้เสียใหม่ เพื่อทำเป็นที่พักแทน จากเรือนรกร้างเมื่อตกแต่งใหม่ก็กลายเป็นเรือนหลังเล็กสีขาวน่าอยู่ รัมภาลงทุนทำสระว่ายน้ำเล็ก ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ ว่ายน้ำเล่นกัน เพราะไม่อยากให้เด็ก ๆ ลงไปเล่นน้ำที่บึงน้ำหลังบ้าน

         เมื่อครอบครัวของศามนย้ายมาอยู่เรือนหลังเล็ก รัมภาไม่เคยนอนหลับสนิทสักคืน เธอได้ยินแต่เสียงหัวเราะเย้ยหยันของหญิงคนหนึ่งแว่วเข้าหูตลอดคืน อีกทั้งมักฝันเห็นผู้หญิงนุ่งโจงกระเบนสีดำ สวมเสื้อคอกว้างแขนกุดเสมอไหล่ ผมยาวระต้นคอรุ่มร่าม ดูเหมือนผู้หญิงในฝันจะยิ้ม แต่รอยยิ้มแฝงไว้ด้วยความน่ากลัว ความฝันซ้ำ ๆ ซาก ๆ ถึงหญิงชราคนนี้ทำให้เธอผวาตื่นยามดึกอยู่บ่อย ๆ เธอตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับศามนและขอย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น แต่ศามนกลับคิดว่าเธอหูฝาดและคิดมากไปเอง รัมภาจึงนำความฝันประหลาดนี้ไปเล่าให้ยายคำฟัง เพราะเธอนึกว่าผู้หญิงที่ฝันเห็นเป็นคุณทวด ยายคำกลับบอกว่าลักษณะแบบนั้นตามที่เธอเล่าให้ฟังไม่ใช่คุณทวดอย่างแน่นอน เพราะคุณทวดไม่เคยไว้ผมยาวรุ่มร่าม ท่านจะตัดผมทรงพุ่ม ๆ และเกล้ามวยเท่านั้น กลายเป็นความสงสัยของรัมภาว่าคนที่เธอฝันเจอคือใคร

         จริง ๆ แล้วทั้งเรือนหลังใหญ่และหลังเล็กแห่งนี้ต่างมีความหลัง แต่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปเพราะคนเก่าแก่ของที่นี่เสียชีวิตไปหมดแล้ว คนที่พอจะรู้ข้อมูลของบ้านสวนแห่งนี้เห็นจะมีเพียง ยายเพ็ญ หญิงชราวัยเก้าสิบกว่า ๆ เพื่อนบ้านที่หลง ๆ ลืม ๆ เลอะเลือน ยายเพ็ญอาศัยอยู่ละแวกนี้มานาน เคยเข้ามาที่เรือนหลังใหญ่เพื่อคอยรับใช้คุณทวดบ่อย ๆ ยายเพ็ญมีหลานสาวเปรี้ยวจี๊ดแต่งตัวจัด หน้าตาคมขำชื่อ เดือนแรม หรือ คุณนายเดือน ตามที่คนละแวกนี้นิยมเรียก เธออายุมากกว่ารัมภา 2 ปี แต่มีนิสัยแตกต่างจากรัมภาโดยสิ้นเชิง คุณนายเดือนนับเป็นเศรษฐีนีในละแวกนี้ เพราะเธอได้รับมรดกมากมายจากการขายตึกแถวหลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิตลง เดือนแรมเป็นหญิงหม้ายสามีทิ้ง ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตเธอรักเงินมากกว่าตัวเธอ คบกันได้ไม่นานก็ทิ้งเธอไปหมด ปัจจุบันจึงมีแต่สาวใช้จอมกระแดะปัญญาน้อยนิดชื่อ ทองดี เป็นผู้ติดตาม

         ด้วยความเป็นคนอยากรู้อยากเห็นของเดือนแรม เมื่อมีเพื่อนบ้านมาอยู่ใหม่อย่างครอบครัวของศามนและรัมภา เธอก็อดไม่ได้ที่จะแวะมาเยี่ยมเยียนเพื่อทำความรู้จัก และเล่าเรื่องราวต่าง ๆ นานาตามที่เคยได้ยินมาจากยายเพ็ญเกี่ยวกับบ้านสวนแห่งนี้ให้รัมภาฟัง แรก ๆ รัมภาก็รู้สึกดีที่มีเพื่อนคุย แต่บ่อย ๆ เข้าเธอก็เริ่มรำคาญ เพราะเดือนแรมเป็นคนพูดมากและไม่มีกาลเทศะ เดือนแรมเล่าให้รัมภาฟังว่าเคยได้ยินมาว่า ในอดีตเรือนหลังเล็กแห่งนี้เคยมีคนบ้าถูกขังอยู่ รัมภาจึงให้เดือนแรมพาไปหายายเพ็ญ เพราะอยากรู้ที่มาที่ไปของบ้านหลังนี้

         เดือนแรมเข้ามาพัวพันกับครอบครัวนี้บ่อย ๆ จนเริ่มคุ้นเคย วันหนึ่งรัมภาฝากให้เดือนแรมเฝ้าบ้านให้ เดือนแรมเผลอนอนกลางวันและเคลิ้มเห็นผู้หญิงคนเดียวกับที่รัมภาเคยฝันเห็น คือหญิงสาวคมขำ ผมประบ่าเหน็บหูเรียบร้อย สวมเสื้อคอกลมแขนกุด นุ่งผ้าโจงสีสวยงาม ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้เดือนแรม และกระซิบข้างหูเธอซ้ำ ๆ ว่า "จำเอาไว้ ฉันจะช่วยแก" ในฝันจากภาพหญิงคมขำ ผมประบ่าที่เห็นตอนแรก ค่อย ๆ กลายเป็นผู้หญิงผมรุ่ยร่าย ผ้าโจงกลายเป็นสีดำ แววตาน่ากลัวเหมือนคนบ้า เธอจึงสะดุ้งตื่นเพราะนึกว่าโดนผีอำ และเล่าเรื่องนี้ให้รัมภาฟัง รัมภาตกใจที่เดือนแรมฝันเห็นผู้หญิงคนเดียวกับที่เธอเคยฝัน เธอเล่าเรื่องนี้ให้ศามนฟังอีกครั้ง เขายังคงเชื่อว่าเธอคิดมากไปเองเหมือนเดิม

         เดือนแรมไปมาหาสู่ที่นี่บ่อยครั้ง จนวันหนึ่งศามนเลิกงานเร็วกว่าปกติ เขาได้มาเจอเดือนแรมที่มาช่วยเฝ้าบ้านให้โดยบังเอิญ ครั้งแรกที่เดือนแรมเจอเขา เธอรู้สึกพึงพอใจในตัวศามน ส่วนศามนไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเดือนแรม แต่ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เดือนแรม เขามักได้ยินเสียงท่องมนต์ของใครคนหนึ่ง และมักเห็นเงาหญิงสวย แววตายั่วยวนคนหนึ่งซ้อนอยู่ในตัวเดือนแรม

         คืนหนึ่งรัมภาเคลิ้มฝัน เห็นผู้หญิงคมขำผมประบ่าคนเดิม ท่าทางเกรี้ยวกราดดุดันชะโงกหน้ามาหา และเอานิ้วจิ้มหน้าผากเธอ สักพักเธอพบว่าตัวเองลอยละลิ่วไปยืนกลางสะพานหน้าบ้าน และเห็นผู้หญิงอีกคนที่มีใบหน้าเศร้า และกลายเป็นรูปคุณทวดหน้าศพท่าทางเกรี้ยวกราดวิ่งตาม ทำท่าจะตะครุบตัวเธอ และร่างนั้นก็หายวับไป รัมภาสะดุ้งตื่นเล่าความฝันให้ศามนฟัง เขาก็รับฟังแต่รู้สึกเอือมระอาและหนักใจ ที่รัมภามีอาการจิตหลอนมากขึ้นทุกวัน ศามนสังเกตว่าตั้งแต่ครอบครัวของเขาย้ายมาอยู่ที่นี่ รัมภามีอาการผิดไปจากครั้งที่อยู่ด้วยกันที่เมืองนอก เธอมักหวาดผวากับบางสิ่งบางอย่าง แม้แต่เมื่อเขาไปยืนใกล้ ๆ เธอยังตกใจสะดุ้งจนตัวลอย ศามนอยากพาเธอหลบพ้นจากบรรยากาศที่บ้านสวน จึงให้วรรณศิกาช่วยเป็นธุระพารัมภาพาลูก ๆ ไปพักผ่อนจิตใจที่หัวหิน เพื่อให้เธอสบายใจขึ้น ส่วนตัวเขาเองติดงานไม่สามารถไปกับครอบครัวได้

         รัมภาเล่าความฝันให้วรรณศิกาฟัง วรรณศิกาเชื่อตามที่รัมภาเล่า และพาเธอไปรู้จักกับลุงช่วง ลุงของพัชนี ที่เป็นคนธรรมะธรรมโมนั่งสมาธิมานาน สามารถนั่งทางในเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปไม่อาจเห็นได้ ลุงช่วงบอกความจริงที่น่ากลัวกับรัมภาว่า บ้านสวนของเธอทั้งเรือนใหญ่และเรือนเล็กต่างมีวิญญาณเป็นหญิงแก่สองคนสิงสถิตอยู่ ที่เรือนหลังใหญ่มีวิญญาณดีวนเวียนอยู่ไม่ยอมไปเกิดใหม่เพราะเป็นห่วงลูกหลาน แต่ที่เรือนหลังเล็กมีวิญญาณร้ายวนเวียนอยู่เพราะต้องการจองเวรรัมภา วิญญาณร้ายเป็นโอปปาติกะที่มีความพยาบาทอาฆาตแรงมาก จนเป็นบ่วงร้อยรัดเธอไว้ไม่ยอมไปผุดไปเกิด แต่ลุงช่วงไม่สามารถติดต่อกับวิญญาณร้ายได้ จึงไม่รู้ว่าเธอต้องการจองเวรรัมภาเรื่องอะไร

         ลุงช่วงบอกว่าพลังของวิญญาณร้ายไม่ยอมรับบุญกุศลหรือคำแผ่เมตตาที่รัมภาส่งไปให้ เธอไม่ยอมอโหสิกรรมและไม่ยอมพ้นจากบ่วงกรรมที่เคยแค้นไว้แต่ชาติปางก่อน ลุงช่วงแนะนำให้รัมภาหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ทั้งแก่วิญญาณทั้งสองบ้าน เพื่อให้เลิกจองเวรจองกรรมต่อกัน เพราะกรรมของใครก็ของคนนั้น คนอื่นช่วยไม่ได้นอกจากต้องพยายามหาทางช่วยตัวเอง รัมภาจึงนิมนต์เจ้าอาวาสวัดใกล้บ้านมาทำพิธีบังสุกุลที่เรือนหลังใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นผล เธอยังคงฝันร้าย และพบกับสิ่งลี้ลับแปลก ๆ ที่บ้านสวนแห่งนี้ตลอด

         หลัง ๆ เดือนแรมเริ่มเข้ามาตีสนิทและพยายามให้ท่าศามนอยู่บ่อย ๆ ในขณะเดียวกันรัมภาเริ่มมีอาการหวาดผวาหนัก ไม่สามารถหลับนอนกับศามน และเริ่มติดยากล่อมประสาท ศามนยิ่งเครียดและเริ่มหวั่นไหวต่อเดือนแรม

         อนุกูลรู้สึกสงสารรัมภา เขาพาตัวเองเข้ามาแทนที่ศามน เป็นเพื่อนสนิทรัมภา และทำตัวทดแทนพ่อให้เด็กแฝด โดยแอบหวังว่า จะทำให้ศามนหึงและกลับมาเป็นครอบครัว แต่ผลออกมาตรงกันข้าม ศามนยิ่งรังเกียจรัมภาจนถึงขั้นทะเลาะกัน และยังทำให้ความสัมพันธ์ของอนุกูลเองและพัชนีที่เพิ่งเริ่มต้น ง่อนแง่น ระส่ำระสาย

         ในที่สุดศามนอดใจไม่ไหวแอบมีอะไรกับเดือนแรม เมื่อวันที่รัมภาและลูก ๆ อยู่หัวหินกับวรรณศิกา เดือนแรมร้อนแรงและมีเสน่ห์ดึงดูดให้เขาสามารถลืมเมียและลูกได้ ทุกครั้งที่เขามีอะไรกับเธอ เขาจะรู้สึกว่าทั้งตัวเขาและเธอไม่ใช่ตัวเอง แต่กลายเป็นคนอื่น โดยเฉพาะเมื่อเขาอยู่ใกล้เดือนแรม เขามักได้กลิ่นแป้งร่ำน้ำอบไทยจากตัวของเธอเสมอ เมื่ออยู่กันสองต่อสองที่เรือนเล็ก ศามนมักได้ยินเสียงกระซิบแว่วข้างหูเรียกเขาว่า "คุณพระ" เสียงนั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนมีใครอีกคนแทรกอยู่ในตัวเอง และเมื่อเขาแวบนึกถึงลูกเมีย ความรู้สึกนั้นจะเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังลูกเมียในทันที เขารู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ของอำนาจอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ถ้าศามนกลับไปที่เรือนใหญ่หรืออยู่ต่อหน้ารูปคุณทวด เขาจะรู้สึกประหลาดเหมือนกับตัวเองจะแยกเป็นสองร่าง อึดอัดจนอยากเป็นลม แต่สำหรับเดือนแรม ทุกครั้งที่ได้มานอนที่เรือนหลังเล็ก เธอมักรู้สึกเคลิ้มเห็นผู้หญิงกระโจงหม่นคนเดิมมายืนข้างเตียงเสมอ พร้อมเสียงแว่วว่าให้เธออยู่ที่นี่เพื่อช่วยแก้แค้นเหมือนเดิม

        
        ในชาติปัจจุบัน แพงจึงกลายเป็นวิญญาณร้ายที่คอยทำร้ายและอาฆาตจองเวรรัมภาเรื่อยมา วิญญาณของแพงที่อยู่ในเรือนหลังเล็กยังคงวนเวียนอยู่กับความแค้น เพราะเธอตายร้ายหรือตายในขณะที่มีความอาฆาตพยาบาทมาก อุปทานแห่งความอาฆาตพยาบาททำให้เกิดพลังที่แข็งกล้า พลังชั่วร้ายของแพงยังคงไม่ไปไหน และวนเวียนอยู่ในที่ ๆ เธอเสียชีวิต พลังนั้นพร้อมที่จะส่งเสริมความชั่วและต่อต้านความดี แพงจึงใช้ร่างเดือนแรมเป็นสื่อเข้าถึงตัวศามน เพราะรู้ว่าเขาคือคุณพระกลับชาติมาเกิด เมื่อใดที่เดือนแรมมาอยู่ที่เรือนหลังเล็ก เธอจึงทำความเลวได้ขึ้นเพราะพลังร้ายช่วยส่งเสริม ไม่ว่าเดือนแรมจะพูดหรือทำอะไรศามนก็เชื่อไปหมด เพราะมีความร้ายกาจของวิญญาณแพงสนับสนุนอยู่ แพงครอบคลุมเดือนแรมให้ใช้เนื้อหนังมังสายั่วยวนให้ศามนหลงใหล และช่วยให้เดือนแรมใช้ความชั่วร้ายครอบงำศามนไว้ไม่ให้สนใจรัมภาตามความต้องการของตน

         ส่วนคุณหญิงอบเชย หรือคุณทวดของศามน เมื่อเธอเสียชีวิตลง คุณทวดรู้ว่ารัมภาคือลูกของตนในภพอดีต วิญญาณคุณทวดจึงคอยช่วยรัมภาให้รอดพ้นจากวิญญาณแพง คุณทวดไม่ยอมไปเกิดใหม่เพราะห่วงรัมภา วิญญาณของคนแก่สองคนในบ้านสวนแห่งนี้ ถึงแม้ว่าร่างกายจะสลายไปแล้ว แต่ยังมีอุปาทานว่าตนยังไม่ตาย จิตจึงเกิดเป็นโอปปาติกะวนเวียนอยู่ในภพปัจจุบัน ที่มีทั้งความอาฆาตและความห่วงเป็นบ่วงร้อยรัดทุกคนเข้ามาเกี่ยวข้อง

         ในที่สุดรัมภานั่งสมาธิจนรู้ความจริงทั้งหมด เธอใช้จิตติดต่อกับคุณทวดให้เลิกจองเวรแพง และอย่าให้ท่านห่วงทางนี้อีก เพื่อจะได้ไม่เป็นบ่วงร้อยรัดท่านต่อไป รัมภายอมรับในวิบากกรรมของตัวเอง เพราะกรรมของแต่ละคนมีที่มาเหมือนลูกโซ่ ร้อยเป็นห่วงติดต่อกันไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าไม่ตัดมัน มันจะกลายเป็นห่วงยืดยาวต่อไปไม่รู้จบ คุณทวดจึงยอมให้รัมภาทำพิธีเผาท่านเพื่อไปเกิดในภพใหม่ รัมภาหมั่นสร้างกุศลมากขึ้น และแผ่ส่วนกุศลไปสู่วิญญาณของแพงด้วย เมื่อวิญญาณของแพงได้รับบุญกุศลที่รัมภาส่งไปอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญที่สุดคือเธอได้รับการอโหสิกรรมจากคุณทวดและรัมภา เธอจึงเลิกอาฆาตจองเวรและยอมไปเกิดใหม่ในที่สุด

         ความดีที่รัมภาสั่งสมจากการปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิ เธอขอผลบุญทั้งหมดปลดปล่อยศามนให้เป็นอิสระจากบ่วงแห่งความหลง และให้สติสัมปชัญญะของเขากลับคืนมา ความดีของเธอยังกลายเป็นเกราะป้องกันให้ความเลวร้ายทั้งหมดสะท้อนกลับผู้ก่อกรรม กุศลกรรมของรัมภาช่วยสร้างเกราะแก้วคุ้มครองศามน ทำให้เขาไม่ต้องพบจุดจบอย่างคุณพระในอดีต เมื่อทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย ศามนเริ่มมีอาการเหมือนมีใครคนหนึ่งเตือนให้เขานึกถึงภรรยาและลูก เมื่อความชั่วร้ายไม่สามารถเข้าถึงตัวศามน มันจึงสะท้อนกลับมาที่คนทำชั่วอย่างเดือนแรม เดือนแรมรู้สึกว่าพลังพิเศษที่เคยช่วยให้เธอมีอำนาจเหนือจิตใจศามนขณะนี้มันเริ่มเสื่อมลง เธอเริ่มหวาดระแวงว่าจะสูญเสียศามนไป ส่วนศามนเริ่มเฉื่อยชาต่อเธอ ในใจของศามนเหมือนมีอำนาจสองอย่างต่อสู้กัน ทำให้เขารู้สึกสับสนและว้าวุ่น เมื่อเดือนแรมรู้ว่าศามนเปลี่ยนไป เธอรับไม่ได้จนเกิดอาการประสาทหลอนจนเสียสติ เหมือนกับที่รัมภาเคยเป็นเมื่อสมัยอยู่ที่เรือนหลังเล็กและโดนศามนทิ้ง ศามนรู้สึกอับอายผู้คนที่เดือนแรมมีอาการแบบนี้ เขาจึงส่งตัวเดือนแรมให้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลโรคจิต

         อนุกูลเห็นโทษของตัณหาราคะจากเรื่องของศามน อนุกูลยินดีที่รัมภาผู้น่าสงสารกลับมามีครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนเดิม เขาตัดใจจากรัมภาและรู้ใจตนเองว่ารักพัชนี เขาหยุดชีวิตเพลย์บอยที่ติดอยู่ในตัณหาราคะ เพื่อแต่งงานและเริ่มต้นครอบครัวที่สมบูรณ์กับพัชนี

         ที่เรือนหลังใหญ่ หลังจากเรื่องร้าย ๆ ผ่านไป ศามนสำนึกผิด เขากลับขึ้นไปไหว้ศพคุณทวดอีกครั้ง เพื่อขอให้คุณทวดช่วยให้เขากลับมาเป็นคนเดิม และดลใจให้รัมภาและลูก ๆ อภัยให้เขาด้วย หลังจากเผาศพคุณทวดเสร็จสิ้น ศามนตัดสินใจไปบวชเพื่อชำระจิตใจให้สะอาด เขายอมตัดขาดจากทางโลกเพื่อให้ทุกคนอโหสิกรรมให้ และหมั่นสร้างกุศลแผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวรในอดีต เพื่อให้เรื่องต่าง ๆ คลี่คลายในทางที่ดี รัมภาพาลูก ๆ ไปใส่บาตรทุกวัน เธอพร้อมให้อภัย และรอคอยวันที่ศามนในชุดผ้าเหลืองจะสึกออกมา เพื่อใช้ชีวิตเป็นครอบครัวที่อบอุ่นที่บ้านสวนแห่งนี้เหมือนเดิม

         เพราะแรงอาฆาต แรงแค้น แรงริษยา หรือ แรงรัก แรงพวกนี้มีพลังสูง คืออำนาจของกิเลส ถึงร่างกายจะสลายไป มันก็ยังคงมีพลังอยู่ เป็นห่วงคล้องไม่ให้ชีวิตหลังความตายเป็นไปตามกระแสกรรม กรรมของแต่ละคนมีที่มาเหมือนลูกโซ่ ร้อยเป็นห่วงติดต่อกันไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเราไม่ตัดมัน มันจะกลายเป็นห่วงยืดยาวต่อไปไม่รู้จบ ความอาฆาตแค้นก็เป็น บ่วง ความรักความห่วงใยก็เป็น บ่วง 


 OPTION




ไม่สกรีน / ไม่มีปก [฿75.00]
ละครไทย บ่วง 5 แผ่นจบ

ราคา ฿75.00  
สกรีนแผ่น + ปก + กล่อง [฿175.00]
ละครไทย บ่วง 5 แผ่นจบ

ราคา ฿175.00  

 

Bookmark and Share

ไปที่หมวดหมู่สินค้า

เข้าระบบ

Your IP : 3.15.197.123
ชื่อใช้งาน:
รห้สผ่าน:
 ร้านค้า     ลูกค้า
ลืมรหัสผ่าน?

**การที่เข้าระบบไม่ได้**
ต้องใช้ Mozilla Firefox จะล็อคอินได้
ถ้าต้องการใช้ Internet Explorer

แก้ได้โดย
1.คลิ๊กที่ Tools เลือก Internet Options
2. เลือก tab Privacy -> Advanced
3. ติ๊กในช่อง Override automatic cookie handling
ปิดแล้วเปิด IE ใหม่ แล้วใช้ได้


สปอนเซอร์



utility

จัดเก็บเว็บนี้
จัดเก็บหน้านี้
ตั้งเว็บนี้ให้เป็นหน้าแรก
แนะนำบอกต่อเพื่อน
แจ้งการชำระเงิน
เครื่องคิดเลข
                        
  
คลิ๊กที่ดาวเพื่อให้คะแนนร้านค้านี้
  • คะแนนโหวต 0.2 /5 ดาว
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
คะแนนโหวต : 0.2 / 5 ดาว (48 โหวต)


เพื่อนบ้าน


  หน้าแรก   |   เกี่ยวกับเรา   |   วิธีชำระเงิน   |   เพื่อนบ้าน   |   เว็บบอร์ด  
Power by http://www.thaishop.in.th ฟรีร้านค้าออนไลน์